เมนูอาหารภาคอีสาน
อาหารอีสานคงจะเป็นเมนูสุดโปรดของคนไทยหลาย ๆ คน เพราะเสน่ห์ของรสชาติ ที่มีครบทุกรส ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด กินกี่ที่ก็ไม่มีเบื่อ แถมยังเหมาะมากที่จะเป็นเมนูทางเลือกสำหรับคนที่ลดความอ้วนอีกด้วย เพราะแต่ละเมนูมีแคลอรี่ไม่สูงมากนั่นเอง
ส้มตำไทยไข่เค็ม
เปิดประเดิมอาหารอีสานด้วยเมนูส้มตำกันก่อนเลยดีกว่า เพราะนึกถึงอาหารอีสานทีไรก็ต้องส้มตำเป็นอันดับแรก แต่จานนี้ขอเสิร์ฟเป็นส้มตำไทยไข่เค็ม เผื่อว่าคนที่ไม่กินปลาร้า หรือไม่กินปู ก็สามารถแซ่บนัวไปด้วยกันได้
หมายเหตุ : ส้มตำไทยใส่ไข่เค็ม (1 ฟอง) 1 จาน ให้พลังงานโดยประมาณ 130 กิโลแคลอรี่
ส่วนผสม ส้มตำไข่เค็ม
เปิดประเดิมอาหารอีสานด้วยเมนูส้มตำกันก่อนเลยดีกว่า เพราะนึกถึงอาหารอีสานทีไรก็ต้องส้มตำเป็นอันดับแรก แต่จานนี้ขอเสิร์ฟเป็นส้มตำไทยไข่เค็ม เผื่อว่าคนที่ไม่กินปลาร้า หรือไม่กินปู ก็สามารถแซ่บนัวไปด้วยกันได้
หมายเหตุ : ส้มตำไทยใส่ไข่เค็ม (1 ฟอง) 1 จาน ให้พลังงานโดยประมาณ 130 กิโลแคลอรี่
ส่วนผสม ส้มตำไข่เค็ม
• กระเทียมกลีบเล็ก 3-5 กลีบ
• พริกขี้หนู ปริมาณตามชอบ
• ถั่วฟักยาว 1 ฝัก
• กุ้งแห้งอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
• มะเขือเทศสีดา 2 ลูก
• น้ำปลา (ปรุงรส)
• น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)
• น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)
• น้ำมะนาว (ปรุงรส)
• มะละกอสับ
• แครอทสับ
• ไข่เค็มผ่าครึ่ง 1 ฟอง
• ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ส้มตำไข่เค็ม
• โขลกกระเทียม และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันพอหยาบ หักถั่วฝักยาวใส่ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ๆ และกุ้งแห้งลงไปโขลกเบา ๆ พอให้ให้เข้ากัน
• ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว โขลกให้น้ำตาลปี๊บละลาย ชิมรสตามชอบ
• สุดท้ายใส่มะละกอ และแครอทลงไปตำผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ไข่เค็มลงไป ใช้ทัพพีเคล้าผสมเบา ๆ ชิมรสอีกครั้ง ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ส้มตำข้าวโพดกุ้งสด
ส้มตำทั่วไปก็กินจนเบื่อลองเลปี่ยนแนวมากินเมนูส้มตำข้าวโพดกุ้งสด สูตรจาก คุณ Angelisa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับข้าวโพดคลุกเคล้ากับเครื่องส้มตำ ปรุงรสตามชอบ สีสันสวยงามน่าทานมากเลยค่ะ
ส่วนผสม ส้มตำข้าวโพดกุ้งสด
• ข้าวโพดต้ม
• ถั่วฝักยาว
• มะเขือเทศ
• แครอทฝานเป็นเส้น ๆ
• พริกขี้หนู
• กระเทียมสับหยาบ
• น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
• น้ำตาลมะพร้าว
• ถั่วลิสงอบ
วิธีทำส้มตำข้าวโพดกุ้งสด
• 1. ฝานข้าวโพด หั่นถั่วฝักยาว หั่นมะเขือเทศ และฝานแครอทหั่นเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
• 2. ปรุงน้ำยำโดยใส่พริกขี้หนู กระเทียมสับ น้ำปลาลดโซเดียม น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
• 3. นำน้ำยำไปคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้ โรยถั่วลิสงอบ
+++++++++++++++
ลาบหมู
ในเมื่อมีเมนูส้มตำแบบเบา ๆ แล้วแล้วก็มาเติมเต็มความอิ่มกันด้วยเมนูลาบหมูสักหน่อย อีกหนึ่งเมนูที่จะขาดไปไม่ได้เลยกับเสน่ห์กลิ่นข้าวคั่วหอม ๆ เคล้ากับเนื้อหมูรวนสุก โรยใบสะระแหน่ จกกับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยนักแล ยิ่งในสมัยนี้ทำกินเองง่ายมาก ๆ เพราะมีผงปรุงลาบ-น้ำตกวางขายกันให้เกลื่อน !สิ่งที่ต้องเตรียม
• เนื้อหมูสับ 200 กรัม
• หอมแดงซอย 1 หัว
• ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
• น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• พริกป่น ปริมาณตามชอบ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
• ใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อหมูสับลงไปรวนจนสุก ยกลงจากเตา
• ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++
ลาบปลาดุก
อีกหนึ่งเมนูลาบที่จะขาดไปไม่ได้เลยกับ ลาบปลาดุกย่าง ต้องสั่งมาแจมด้วยเสมอ ก็เพราะกลิ่นหอม ๆ ของปลาดุกย่าง จับมาเคล้าเครื่องเคียง ปรุงรสให้แซ่บ อูย ! นึกแล้วก็น้ำลายสอ กินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ แบบนี้ก็ฟินสิจ๊ะ ! ถ้าอย่างนั้นก็มาดูวิธีทำลาบปลาดุกกันเลย หรือจะลองเข้าไปดูวิธีทำแบบละเอียด เห็นภาพขั้นตอนการทำกับแบบจะจะได้ที่ ลาบปลาดุกย่าง อาหารอีสานสูตรเด็ดสำหรับมือใหม่สิ่งที่ต้องเตรียม
• ปลาดุกย่าง 1 ตัว
• ข่าอ่อน เล็กน้อย
• ใบมะกรูดซอย
• พริกสดซอย เล็กน้อย
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
• น้ำมะนาว 1 ลูก
• ผงชูรส ตามชอบ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมและผักชีซอย
• ใบมะกรูดซอย
วิธีทำ
• แกะปลาดุกเอาแต่เนื้อ จากนั้นนำไปสับรวมกับข่าอ่อนเล็กน้อย ใส่ลงในอ่างผสม เตรียมไว้ (ถ้าชอบแบบน้ำขลุกขลิกก็เติมน้ำต้มสุกลงไปเล็กน้อย)
• ใส่พริกสดซอย ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำมะนาว ผงชูรส และน้ำปลา คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ
• สุดท้ายโรยต้นหอมผักชีซอย และใบมะกรูดซอยลงไป เคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++
ซุปหน่อไม้
อีกหนึ่งเมนูในตระกูลลาบ ซึ่งนอกจากซุปหน่อไม้จะเป็นที่โปรดปรานของคออาหารอีสานแล้ว ยังเหมาะกับคนที่กำลังลดความอ้วนด้วยนะคะ เพราะซุปหน่อไม้ถ้วยเดียว ให้พลังงานต่ำมาก ๆ แต่ก็กินในปริมาณที่พอดีนะคะ เพราะหน่อไม้กินมากจะไม่ดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ
หมายเหตุ : ซุปหน่อไม้ 1 จาน ให้พลังงานโดยประมาณ 40 กิโลแคลอรี่
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ใบย่านาง 5-10 ใบ
• หน่อไม้รวก ขูดเป็นเส้นยาว
• น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• หอมแดงซอย 3 หัว
• น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• น้ำปลา สำหรับปรุงรส
• พริกป่น ตามชอบ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีฝรั่งซอย
• ต้นหอมซอย
วิธีทำ
• ขยี้ใบย่านางกับน้ำจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม กรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่หม้อ เตรียมไว้
• ต้มน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้รวกลงต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นบีบน้ำออกจากหน่อไม้ให้หมด แล้วใส่ลงในน้ำใบย่านางที่เตรียมไว้ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่น และน้ำปลาร้าลงไป ต้มจนเดือด ยกลงจาเตา เตรียมไว้
• ตักหน่อไม้ใส่อ่างผสม ใส่หอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว เคล้าผสมให้เข้ากน ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีฝรั่งซอย และต้นหอมซอย เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++
น้ำตกปลาหมึก
ในเมื่อมีเมนูลาบก็ต้องตามมาด้วยเมนูน้ำตกที่เป็นของคู่กัน ก็เพราะว่ามีวิธีทำและส่วนผสมที่คล้ายกันนั่นเอง เมนูน้ำตกฮิต ๆ ก็คงเป็นน้ำตกหมู แต่ที่เราจะนำเสนอขอเปลี่ยนเป็นน้ำตกปลาหมึกสักหน่อยดีกว่า เอาใจคนชอบกินอาหารทะเล ทำง่าย ๆ ด้วย มาดูกัน
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้น 200 กรัม
• หอมแดงซอย 1 หัว
• ผักชีฝรั่งซอย
• ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
• น้ำปลา สำหรับปรุงรส
• น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• พริกป่น ปริมาณตามชอบ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
• ใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปรวนจนสุก ยกลงจาเตา ตักใส่อ่างผสมเตรียมไว้
• ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++
ตับหวาน
เมนูอาหารอีสานสุดแซ่บจานนี้ คงจะเป็นที่โปรดปรานของคนที่ชอบกินอาหารกึ่งสุกกึ่ดิบ ที่จะนำตับหมูไปลวกพอเกือบสุก พอให้นิ่ม เพราะถ้าลวกสุกเกินไป ตับหมูจะแข็ง ไม่อร่อย ๆ นั่นเอง ส่วนใครที่รู้ตัวว่า สภาพกระเพาะไม่แข็งแรงก็ระมัดระวังกันด้วยนะจ๊ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ตับหมู หั่นเป็นชิ้นบาง 200 กรัม
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
• ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ใบสะระแหน่ ปริมาณตามชอบ
วิธีทำ
• ต้มน้ำจนเดือดจัด นำตับหมูลงลวกจนสุก (ระดับความสุกเลือกตามความชอบ) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
• ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นเทลงในอ่างผสมที่ใส่ตับหมูลวกไว้ เคล้าผสมให้เข้ากัน
• ใส่ข้าวคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบมะกรูดซอย และใบสะระแหน่ลงเคล้าผสมจนเข้ากันดี ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++
หมูมะนาว
เมนูหมูมะนาวถือเป็นเมนูกับแกล้มสุดฮิตเลยก็ว่าได้ ไปสังสรรค์ในวงไหนก็มักจะต้องสั่งมากินคู่ทุครั้งไป รสเปรี้ยวนำ เด็ดเผ็ดแซ่บเสียเหลือเกิน ใครที่ชอบเมนูแซ่บ ๆ ต้องลองเลย วิธีทำก็ไม่ยากด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
• เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามยาว 200-300 กรัม
• กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 4-5 ช้อนโต๊ะ
• ก้านคะน้า สำหรับรับประทานคู่
• กระเทียมฝานเป็นแว่นบาง สำหรับโรยหน้า
• ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
• พริกแห้งทอดกรอบ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
• ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เนื้อหมูลงลวกพอสุก (ประมาณ 30 วินาที อย่าลวกนาน เพราะเนื้อหมูจะแข็ง) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จัดใส่จานที่รองด้วยก้านคะน้า เตรียมไว้
• ผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาวเข้าด้วยกันจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ราดลงบนหมูที่เตรียมไว้ โรยด้วยกระเทียมฝาน ใบสะระแหน่ และพริกแห้งทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++
ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
ลองมาแซ่บกันในแบบอาหารอีสานประเภทต้ม ๆ กันดูบ้าง กับเมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อน กัดกรุบ ๆ ซดน้ำแซ่บ ๆ นึกถึงทีไรเป็นต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ! ถ้าพร้อมจะแซ่บแล้ว ก็ตามมาดูวิธีทำกัน
สิ่งที่ต้องเตรียม
• น้ำ 500 มิลลิลิตร
• ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
• ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
• ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 3 ใบ
• กระดูกอ่อนหมูหั่นเป็นชิ้น ๆ 200 กรัม
• เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
• มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 50 กรัม
• หอมแดงซอยบาง 1 หัว
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
• ใบโหระพา 10 ใบ
• ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
• ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
• ใส่กระดูกอ่อนหมูลงต้มจนสุก ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ และหอมแดงซอยลงต้ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น